วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วิกฤตน้ำมันแพง


รัฐมนตรีพลังงานเยือนซาอุดีอาระเบีย ร่วมประชุมรัฐมนตรีพลังงานโลก โดยมีกว่า 20 ประเทศในทวีปเอเชียเข้าร่วม เพื่อหาลู่ทางแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ เพิ่มขึ้น ด้านวงการน้ำมันมองปัญหานิวเคลียร์อิหร่านยังไม่จบง่ายหากไม่คลี่คลายราคาน้ำมันดิบจะทรงตัวระดับสูงเพื่อรอข่าวรายวัน หากใช้กำลังสู้รบน้ำมันดิบมีโอกาสพุ่งถึง 100 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ขายปลีกของไทยหากไม่ได้อานิสงค์บาทแข็งช่วยไว้ 2 บาทต่อลิตรเบนซินทะลุ 30 บาทต่อลิตรไปแล้ว นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2550 นี้ กระทรวงพลังงาน นำโดย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมผู้บริหารระดับสูงจะได้เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีพลังงานโลก และความร่วมมือพลังงานของทวีปเอเชีย (International Energy Forum and 2nd Asian Roundtable Program) โดยภายในการประชุมครั้งนี้ นับเป็นการหารือร่วมกันระดับรัฐมนตรีพลังงานของชาติในทวีปเอเชียมากกว่า 20 ประเทศ ทั้งจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน และกลุ่มผู้ใช้น้ำมัน เช่น ประเทศเกาหลีใต้ อินเดีย จีน รวมทั้งประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทยจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงาน การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานร่วมกันระหว่างประเทศในเอเชีย การกำหนดทิศทางของนโยบายด้านพลังงานในอนาคต รวมทั้งแนวทางการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทย อาทิ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปทำธุรกิจในตะวันออกกลางเพิ่มเติม หลังจากประสบความสำเร็จในการขยายการสำรวจปิโตรเลียมในประเทศโอมานมาแล้ว โดยในที่ประชุมยังจะมีการพูดคุยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น และการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ตลอดจนการพัฒนาพลังงานทดแทน และความร่วมมือเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความเห็นและเสริมสร้างเครือข่ายกับผู้ร่วมประชุม นอกจากนี้ การเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ยังจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย และประเทศซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นอีกด้วย กรณีอิหร่าน-สัญญาณเตือนน้ำมันดิบมีโอกาสแตะ100เหรียญ แหล่งข่าวจากวงการน้ำมัน เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุดหลังอิหร่านปล่อยทหารของอังกฤษแล้วมีราคาอ่อนลงแต่ทิศทางการเคลื่อนไหวต่อแผนการผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านจะยังคงเป็นประเด็นต้องจับตามองต่อไปเพราะตลาดยังคงอ่อนไหวกับข่าวดังกล่าวหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบจะสวิงตัวสูงยังคงมีและหากสหรัฐอเมริกาเลือกการใช้กำลังทหารแก้ไขปัญหานักวิเคราะห์บางสำนักมองว่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบอาจเคลื่อนไหวไประดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปจะปรับขึ้นไปจากระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ไปอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล “ ขณะนี้ค่าตกใจจากสถานการณ์อิหร่านบวกเข้าไปในเนื้อน้ำมันไม่น้อยกว่า 6-8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ซึ่งปัจจัยที่ยังคงต้องมองอยู่คือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านที่จะมีผลต่อจิตวิทยาส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันกังวลว่าจะมีการใช้กำลังทางทหารเพื่อแก้ไขปัญหาและจะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดิบอิหร่านที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกสะดุดลงจึงทำให้ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวระดับสูงเพื่อที่จะกลับไปวิ่งขึ้นใหม่เมื่อมีข่าวร้ายเกิดขึ้น”แหล่งข่าวกล่าว ทั้งนี้ หากพิจารณาราคาน้ำมันดิบปี 2549 ราคาสูงสุดน้ำมันดิบตลาดดูไบอยู่ที่ 72.29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เบนซิน 95 ตลาดสิงคโปร์อยู่ที่ 90.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีเซลอยู่ที่ 89.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปัจจุบันสูงกว่าราคาเฉลี่ยของปี 2549 แล้ว ส่วนราคาขายปลีกของไทยเมื่อปี 49 ที่ถือว่าแพงที่สุดในประวัติการณ์ ช่วงเดือนส.ค. 49 เบนซิน 95 อยู่ที่ 30.59 บาท/ลิตร ดีเซลแพงสุดช่วงเดือนก.ค.49 ที่ 27.94 บาท/ลิตร ขณะที่เริ่มต้นปี 2550 ในช่วงเม.ย.นี้ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยเบนซินอยู่ในระดับ 28 กว่าบาทต่อลิตรซึ่งหากไม่ได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าก็จะทำให้ราคาเบนซินสูงทะลุ 30 บาทต่อลิตรแล้วเช่นกันแต่บาทที่แข็งค่าได้ส่งผลให้ช่วยลดผลกระทบต่อราคาน้ำมันไปเฉลี่ยกว่า 2 บาทต่อลิตร แหล่งข่าว กล่าวว่า หากสถานการณ์ยังคงตึงเครียดโอกาสที่เบนซินขายปลีกในไทยจะแตะระดับ 30 บาทต่อลิตรเช่นเดียวกับปี 2549 ที่เป็นระดับสูงสุดก็มีสูงในช่วงเม.ย. นี้เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวในยุโรปและสหรัฐที่จะมีการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นมาก และระยะสั้นดีเซลก็มีโอกาสที่จะเห็นระดับทะลุ 25 บาทต่อลิตร แต่ดีเซลจะยังไม่น่ามีโอกาสขึ้นไปเทียบกับราคาสูงสุดของปี 2549 ในช่วง1-2 เดือนนี้ นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า วิกฤติน้ำมันของโลกเกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้งแล้วหากสหรัฐใช้กำลังทหารกับอิหร่านเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการนิวเคลียร์ก็จะถือเป็นวิกฤติครั้งที่ 4 ที่ไทยก็จะต้องเผชิญกับราคาน้ำมันแพงซึ่งกรณีเกิดขึ้นจริงรัฐบาลได้มีมาตรการที่เตรียมไว้พร้อมอยู่แล้วโดยเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการและเอกชน เพื่อปรับปรุงมาตรการแก้ปัญหาน้ำมันขาดแคลนใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปที่เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงก็พร้อมประกาศใช้ทันที นายเทียนไชย จงพีร์เพียร ที่ปรึกษาสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า ในระยะ 1-2 เดือนนี้คงจะต้องติดตามราคาเบนซินเพราะกำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของสหรัฐและยุโรปที่จะมีผลต่อความต้องการใช้สูง อย่างไรก็ตามเบนซินจะทะลุ 30 บาทต่อลิตรหรือไม่อยู่ที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านเป็นหลักหากทุกอย่างคลี่คลายและจบโดยเร็วเชื่อว่าจะไม่มีผลแต่เหตุการณ์ยังคงอึมครึมต่อไปโอกาสก็มีสูงเช่นกันซึ่งยากที่จะคาดเดาได้

ไม่มีความคิดเห็น: